เปิดประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์ศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศโครเอเชียหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศโครเอเชียจะเป็นพื้นที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและสถาปัตยกรรมโบราณ
ประเทศโครเอเชียมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเป็นพันปี ภายในเมืองยังคงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้เรียกได้ว่ามีการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม
ทำให้เราได้ศึกษาถึงโครงสร้างการออกแบบและศิลปะโบราณที่ยังคงหลงเหลือให้เราได้ดื่มด่ำไปกลับความสวยงาม ซึ่งหลายท่านที่ได้เดินทางไปยังประเทศโครเอเชียหลงใหลในความสวยงามจนต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง
สำหรับ สถานที่ท่องเที่ยวโครเอเชีย จะเน้นไปในทางธรรมชาติและโบราณสถาน
โดยวันนี้เราขอยกตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ใครมาประเทศโครเอเชียต้องมาเยือนสักครั้งให้ได้ โดยเป็น 2 จุดที่เป็นพิกัดที่คุณต้องปักหมุดไว้เลยนั่นก็คือ
1.อุทยานทะเลสาบแห่งชาติอุทยานพลิตวิเซ่ (Plitvice)
เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1949และหลังจากนั้นไม่นานทางยูเนสโกได้ประกาศเป็นมรดกโลกในปี 1979 สถานที่แห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดินที่คุณสัมผัสได้ โดยภายในอุทยานมีทะเลสาบที่สวยงามจำนวน 16 แห่งบริเวณผิวน้ำสามารถมองเห็นไปถึงเบื้องล่างเป็นจุดที่น้ำใสมากจนเหมือนเรามองกระจกกั้นพื้นที่เบื้องล่างไว้
หากใครได้ไปเดินชมบริเวณอุทยานจะได้สัมผัสกับพรรณไม้นานาชนิด และมีนกชนิดต่างๆอาศัยอยู่ทั่วทุกพื้นที่และมีนกที่หาชมได้ยาก เช่น นกกินแมลงซึ่งนกชนิดนี้จะมีสีสันของขนที่สวยงามเงาเป็นมันวาว
นอกจากนี้บริเวณพื้นที่อุทยานจะมีสะพานไม้ให้คุณได้เดินเลียบชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทำให้คุณหลุดจากโลกที่มีความวุ่นวายเข้าไปสู่ธรรมชาติอย่างแท้จริง
สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังอุทยานแห่งชาติคือช่วงเมษายนถึงมิถุนายน โดยช่วงนี้จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคุณจะได้ชมพันธุ์ไม้นานาพันธุ์ที่มีสีสันสดใส สีตัดกันไปทั่วบริเวณ
แต่ถ้าคุณมาท่องเที่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมคุณจะได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นพร้อมทั้งเจอหิมะตกก็จะได้เห็นบรรยากาศที่มีสีขาวโพลนไปด้วยหิมะ เป็นอีกหนึ่งอรรถรสในการชมธรรมชาติ
2.บริเวณเมืองดูบรอฟนิก
ซึ่งบริเวณเมืองนี้ถูกสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และมีการก่อสร้างเรื่อยมาจนเสร็จสมบูรณ์ในศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะเป็นจุดที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกโดยตึกและบ้านคนจะยังคงเป็นลักษณะเดิมและมีศิลปะผสมผสานระหว่างฮังการีออสเตรีย เวนิส เพราะเมืองแห่งนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองจากหลายเมือง
โดยคุณสามารถเดินชมได้ทั่วเมืองและเป็นสถานที่สำคัญในการใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง Game of Thrones หากใครที่ได้ชมหนังเรื่องนี้เชื่อได้ว่าจะต้องอยากมาเยือนที่นี่เนื่องจากโลเคชั่นแห่งนี้มีความสวยงามมากที่สุด คุณจะได้ดื่มด่ำกับศิลปะและสถาปัตยกรรมโบราณ จุดที่สามารถเดินชมนอกจากบริเวณในเมืองยังมีบริเวณแนวกำแพงโบราณที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง
ในปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่หลายท่านนิยมเดินชมบริเวณกำแพงซึ่งวิวสองข้างทางมีความสวยเป็นอย่างมากและสามารถขึ้นไปยังจุดไฮไลท์ที่มองเห็นทั่วเมืองเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม
ความยาวของกำแพงอยู่ที่ 1.4 กิโลเมตร ระยะทางไม่ไกลสามารถเดินชมวิวได้สบาย
สำหรับเมืองนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยที่สุดของประเทศโครเอเชีย จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด
นอกจากนี้ยังมีจุดให้คุณได้สัมผัสความสวยงามอีกหลายจุด ทำให้ประเทศโครเอเชียเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด